••• งานประกวดพระ วันนี้ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนาจัดโดย อบจ.สมุทรปราการ ร่วมกับ ชมรมพระเครื่องสมุทรปราการ โดยมี พิเชษฐ โปร่งแก้วงาม (หอย ปากน้ำ) ประธานชมรมพระเครื่องสมุทรปราการ เป็นผู้ดำเนินงาน รางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ คือ หนังสือ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จัดทำโดยทีมงานนิตยสาร พระท่าพระจันทร์ นับเป็นหนังสือดีมีคุณค่าอีกเล่มหนึ่งที่นักสะสม เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ควรมีไว้เป็นคู่มือศึกษาหาข้อมูล โดยเฉพาะการได้ดู ภาพเหรียญแท้ เป็นประจำย่อมทำให้มีสายตาแม่นยำขึ้นในการพิจารณา เหรียญแท้ ได้เป็นอย่างดี โอกาสที่จะปลอดภัยจาก เหรียญปลอม ก็มีมากขึ้นด้วย สมัยนี้ เหรียญหลวงพ่อทวด ของปลอมมีทุกรุ่น ฝีมือเฉียบขาดมาก และมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนของจริงมาก การได้ศึกษา ภาพเหรียญแท้ จากหนังสือเล่มนี้จะช่วยท่านได้เป็นอย่างดี
•• คมเลนส์ส่องพระ วันนี้ได้รับภาพ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ จาก ป๋อง สุพรรณ มาให้ชมเป็นวิทยาทาน เป็นพระในตำนานอีกองค์หนึ่งที่ผ่านมือเซียนใหญ่มาแล้วหลายท่าน สภาพสวยสมบูรณ์ไม่มีชำรุดอุดซ่อมแต่ประการใด อกพระบึกบึนสง่างดงามมาก เส้นซุ้มครอบแก้วนูนหนาสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตกบิ่น ฐานชั้นล่างเป็นแท่นใหญ่หนา องค์พระปฏิมาประทับนั่งสมาธิอย่างงดงามน่าศรัทธาเลื่อมใส ปลายพระเกศยาวจรดซุ้ม ทุกซอกมุมมีจุดสำคัญของ พระแท้ ที่ตรงกับตำราทุกประการ ความสวยสมบูรณ์และคมชัดลึกอย่างแท้จริงของพระองค์นี้ ต้องถือว่าเป็น พระองค์แชมป์ ที่หาไม่ได้ง่ายนักในชั่วโมงนี้ หากจะพูดถึงราคาก็ต้องกว่ากันที่ ๑๕ ล้านขึ้นไป ไกลเกินสุดเอื้อมสำหรับชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย ก็ได้แต่ชื่นชมภาพที่เห็นนี้ด้วยกันเท่านั้นเอง
•• องค์ต่อไปเป็น พระกรุเจดีย์เล็ก วัดบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ ของ ซุป เตาปูน สมัยก่อนไม่ค่อยมีคนสนใจพระกรุนี้กันมากนัก วิจารณ์กันว่า ไม่ใช่พระที่ สมเด็จ (โต) ปลุกเสก แต่จากเนื้อพระ คราบกรุ ความเก่า อายุการสร้าง หลายคนเชื่อกันว่า น่าจะทัน สมเด็จ (โต) ปลุกเสกแน่นอน หรือหากไม่ทันก็น่าจะมี ผงวิเศษของท่านผสมอยู่ด้วย เพราะเนื้อหาเหมือนกันมาก จึงหันมาเช่าหากันมากขึ้น อย่างองค์ในภาพนี้ราคาเฉียดล้านบาท...พระกรุเจดีย์เล็ก มีความเป็นมาคู่กับ พระสมเด็จ กรุบางขุนพรหม โดย เสมียนตราด้วง ต้นตระกูล ธนโกเศศ ซึ่งมีความศรัทธาเลื่อมใสใน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดใหม่อมตรส (บางขุนพรหม) พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหญ่เพื่อบรรจุ พระสมเด็จ ที่ สมเด็จฯ (โต) ปลุกเสก เมื่อปี ๒๔๑๓ ขณะเดียวกันได้สร้าง เจดีย์องค์เล็ก รอบเจดีย์องค์ใหญ่เพื่อบรรจุอัฐิบรรพบุรุษ ซึ่งมีพระเครื่อง บรรจุอยู่ด้วย โดยมีการขุดพบเมื่อครั้งที่ทางวัดบูรณะเจดีย์องค์ใหญ่คราวเปิดกรุพระสมเด็จ ปี ๒๕๐๐ เป็นพระเนื้อผงคล้ายกับ พระสมเด็จ กรุเจดีย์องค์ใหญ่ แตกต่างกันที่พิมพ์ อายุความเก่าก็ไล่เลี่ยกันมาก น่าจะสร้างห่างกันไม่นานนัก พระกรุเจดีย์เล็ก ที่พบมีหลายพิมพ์ อาทิ พิมพ์ฐานคู่ (คล้ายกับพิมพ์ฐานคู่ของกรุเจดีย์ใหญ่), พิมพ์ไสยาสน์,.พิมพ์ทรงเจดีย์หมอน, พิมพ์สามเหลี่ยม ฯลฯ ทุกวันนี้วงการพระเครื่องให้ความสนใจ พระกรุเจดีย์เล็ก นี้มากขึ้น จึงมีการเช่าหาในราคาสูงพอสมควร
•• เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ งานประกวดพระ วันนี้ จึงขอนำเรื่องราวของพระเครื่อง หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองนี้ มาให้ชมเป็นวิทยาทาน ๒ องค์ คือ ๑.เหรียญหลวงปู่เผือก พิมพ์สี่เหลี่ยม รุ่น ๒ เนื้อเงิน ปี ๒๔๙๖ เหรียญรุ่นนี้สร้างเลียนแบบเหรียญรุ่นแรก โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีทั้งหลังยันต์ห้าและหลังยันต์ครู มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อเงินกับเนื้อทองแดง ที่เห็นในภาพนี้เป็น เนื้อเงิน สร้างน้อยและหายาก ก้อง กิ่งแก้ว ผู้ชำนาญพระสายนี้บอกว่า เหรียญเนื้อเงินรุ่นนี้พบเห็นในวงการไม่เกิน ๑๐ เหรียญ และเหรียญเนื้อเงินจะมีเฉพาะหลังยันต์ห้าเท่านั้น...เหรียญสภาพสวยเหมือนในภาพนี้เช่าหากันที่หลักแสนกลางขึ้นไป เป็นเหรียญของ ทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของ ก้อง กิ่งแก้ว ผู้สนับสนุนให้ “หลานก้อง” คนนี้แจ้งเกิดในวงการพระเครื่อง...สาเหตุที่มีการสร้างเหรียญรุ่นนี้ ก้อง กิ่งแก้ว ให้ข้อมูลว่า...เมื่อปี ๒๔๙๖ หลวงปู่เผือก ได้วางโครงการจัดสร้าง “เจดีย์” ขึ้นมาในวัด ได้มีผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งทางวัดพอมีปัจจัยชำระได้บ้าง แต่เมื่อเจดีย์สร้างเสร็จแล้ว ผู้รับเหมาก่อสร้างเอาสัญญามาให้ดู ระบุค่าก่อสร้างเป็นเงิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท จากจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นมานี้ทำให้ หลวงปู่เผือก ต้องสร้างพระเครื่องในปีนั้นขึ้นมาหลายพิมพ์ เพื่อหาเงินไปใช้หนี้ให้กับคนที่โกงวัด...สุดท้ายคนที่โกงวัดไปนั้นบ้านถูกไฟไหม้ ครอบครัวแตกแยกสาแหรกขาด หมดเนื้อหมดตัวไปตามๆ กัน เพราะเวรกรรมที่สร้างขึ้นมาเอง
•• พระหลวงปู่เผือก องค์ที่ ๒ คือ พระพุทธชินราช พิมพ์ครึ่งซีก สร้างประมาณปี ๒๔๘๕ สมัยนั้นทางราชการมีดำริให้วัดที่มีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม จัดสร้างพระเครื่องขึ้นมาเพื่อนำไปแจกทหารที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทางวัดจึงได้จัดสร้างพระรุ่นนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อแจกทหาร อีกส่วนหนึ่งให้ชาวบ้านทำบุญบูชา การจัดสร้างครั้งนั้นมีทั้งพิมพ์อกเลาฐานหนา พิมพ์อกเลาสองหน้า พิมพ์อกเลานิยมอุดใหญ่ (หมายถึงใต้ฐานมีรอยเจาะรูเพื่อบรรจุเม็ดกริ่ง รูที่เจาะนี้มีขนาดใหญ่ประมาณเท่ากับยางลบหัวดินสอ) และพิมพ์ครึ่งซีก...เฉพาะ พิมพ์ครึ่งซีก หรือพิมพ์หน้าเดียวหลังเรียบนี้สร้างน้อยและหายาก เช่าหากันที่หลักแสนต้น องค์ในภาพนี้เป็นพระของ ก้อง กิ่งแก้ว คนหนุ่มสายเลือดใหม่ไฟแรง
•• ต่อไปเป็นภาพจากหนังสือ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ที่พิมพ์แจกเป็นรางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ ในงานประกวดพระวันนี้ ซึ่งผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ (ทีมงาน นิตยสาร พระท่าพระจันทร์) ได้ส่งภาพต้นฉบับมาให้ชมเป็นวิทยาทาน ๒ เหรียญ คือ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์พุทธซ้อนใหญ่ แจกกรรมการ ปี ๒๕๐๙ เนื้ออัลปาก้าเปียกทอง เหรียญนี้ออกแบบได้วิจิตรงดงามมาก มีรายละเอียดมากกว่าเหรียญใดๆ ของวัดช้างให้ กล่าวคือ ด้านหน้ามีรูป พระอาจารย์ทิม อยู่ตรงกลาง เบื้องหลังมีรูป หลวงพ่อทวด อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไป ลักษณะซ้อนกัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่เห็นเป็นภาพ หลวงพ่อทวด นั่งอยู่บนไหล่ พระอาจารย์ทิม อันเป็นที่มาของคำว่า “เหรียญขี่คอ” ด้านหลังเป็นรูป เจดีย์ ซึ่งเป็น สถูปหลวงพ่อทวด ที่ฝังอัฐิของหลวงพ่อทวด ยุคแรกๆ เป็นเพียงไม้ปักไว้เป็นเครื่องหมาย ต่อมา พระอาจารย์ทิม ได้พัฒนาสร้างสถูปครอบไว้ และสร้างวิหาร (มณฑป) ขนาดใหญ่สวยงามมาก ครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง สถูปนี้อยู่นอกรั้ววัด ใกล้กับทางรถไฟสายใต้...คนสมัยก่อนบอกว่า คำว่า “พุทธซ้อน” มาจากองค์พระซ้อนกัน ๒ องค์ ซึ่งในภาพเป็น หลวงพ่อทวด และ พระอาจารย์ทิม ส่วนคำว่า “เหรียญขี่คอ” เป็นการเรียกของชาวบ้านทั่วไป เหรียญรุ่นนี้มี ๒ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ใหญ่เนื้ออัลปาก้าบุทอง (เปียกทอง) สร้างจำนวนน้อย เฉพาะแจกกรรมการ จึงนิยมเรียกกันว่า “เหรียญพุทธซ้อนแจกกรรมการ” ปัจจุบันเช่าหากันที่หลักแสนปลายถึงหลักล้านต้น...๒.พิมพ์เล็ก หรือเหรียญพุทธซ้อนเล็ก เนื้ออัลปาก้า มีทั้งไม่ชุบนิกเกิล และชุบนิกเกิล (โดยใช้ตัวตัดขอบเหรียญ ตัวเดียวกันกับเหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘) เหรียญพิมพ์นี้ที่ไม่ชุบนิกเกิล หรือเนื้ออัลปาก้าเปลือย มีค่านิยมเกิน ๒ แสนบาท ส่วนที่ชุบนิกเกิลมีค่านิยมประมาณ ๑ แสนบาท ในเหรียญที่มีสภาพสวยสมบูรณ์คมชัด...เหรียญพุทธซ้อน นับเป็นเหรียญรุ่นเดียวในสายหลวงพ่อทวด ที่มีรูป สถูป อยู่ด้านหลังเหรียญ...นับเป็นพิมพ์พิเศษอีกรุ่นหนึ่งที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นใด...สำหรับคำว่า เหรียญพุทธซ้อนเล็ก หรือ พิมพ์เล็กความจริงแล้วเป็นพิมพ์มาตรฐานทั่วไปของ เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์เสมา ทุกรุ่น ที่เรียกว่า พิมพ์เล็ก คงหมายถึง เล็กกว่าพิมพ์แจกกรรมการ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ากันเล็กน้อย มากกว่า •• พบกับ คมเลนส์ส่องพระ ได้ใหม่ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ต่อไป ขอขอบพระคุณ ทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านคอลัมน์นี้มาโดยตลอด พร้อมทั้งคำแนะนำที่มีคุณค่า ซึ่งผู้เขียนขอน้อมรับด้วยความเคารพและขอบพระคุณยิ่ง...นะมัสเต •••
พระมณเฑียร 
