เว็บไซด์แนะนํา
|
ข่าว พระเครื่อง สนามพระ วันที่ 01/04/55
|
พระกำแพงซุ้มกอ (พิมพ์จิ๋ว) กรุลานทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร
เริ่มนับถอยหลัง สู่วัน ร้อนที่สุดในโลก ของประเทศไทยกันได้ ณ บัดนี้ ใครยังร้อน ไม่พอ รออีกไม่กี่วันเดี๋ยวรู้ แต่ตอนนี้ไปชมดูพระสวยๆให้เย็นใจกันดีกว่า
องค์แรกที่นำเสนอคือ พระกำแพงซุ้มกอ (พิมพ์จิ๋ว) กรุลานทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลพระกำแพงซุ้มกอที่ ถูกลืม เพราะจำนวนพระที่พบขึ้นจากกรุมีจำนวนน้อย
มีบันทึกถึงการค้นพบพระพิมพ์สกุลนี้ ในหนังสือเสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชร ว่า เมื่อปี พ.ศ.2392 ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ขึ้นไปเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพง และได้ไปอ่านศิลาจารึกที่ วัดเสด็จ ได้ความว่าเมืองนี้มีโบราณสถานและพระบรมธาตุที่สร้างโดย พระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อปี พ.ศ.1900 ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก
เหรียญพระพุทธ หล่อโบราณ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดง หลวงปู่ศุข ของสุขเกษม ปาริชาติดุสิต
พระยากำแพงเพชร (น้อย) เจ้าเมือง จึงออกสำรวจตามลายแทงศิลาจารึกนั้น ก็พบพระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์จริง จึงปฏิสังขรณ์ และได้พบพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูป และ พระพิมพ์ บรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์ จำแนกพิมพ์พระได้หลายสิบแบบ
ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมมากในระยะแรกเป็น พระพิมพ์กำแพงลีลาเม็ดขนุน เนื้อดินเผา ตามด้วย พระพิมพ์ซุ้มกอ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2490 ได้มีการค้นพบพระพิมพ์สกุลนี้ได้อีกจากกรุในวัดบรมธาตุ วัดพิกุล วัดฤๅษี ฯลฯ ในบริเวณลานทุ่งเศรษฐี พระพิมพ์ซุ้มกอ ที่พบทั้ง เนื้อดิน เนื้อชิน มีจำนวนมากกว่า พระพิมพ์ลีลาเม็ดขนุน
แยกพิมพ์ได้ถึง 7 แบบคือ พิมพ์ใหญ่ (มีกนก) ซุ้มกอดำ ซุ้มกอเนื้อว่าน พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์จิ๋ว ซุ้มกอเนื้อชิน
จากบันทึกดังกล่าว ยืนยันได้ว่า พระซุ้มกอ พิมพ์จิ๋ว มีอยู่จริง แต่ด้วยจำนวนพระที่มีน้อยมั่ก และมีพระปลอม จากการทำพิมพ์ ใหม่ และพระแกะจากเนื้อพระเก่า จึงไม่กล้าเล่น ทำให้ความนิยมเงียบๆจนเกือบหายไป
พระปิดตามหายันต์ เนื้อชิน พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา พัทลุง 2483 ของเฉลิมเกียรติ กาญจนศิราธิป
แต่นักนิยมพระเครื่องเมืองกำแพงขนานแท้ ที่ตาถึง ต่างเฝ้ามองหาพระพิมพ์นี้กันตาเป็นมัน เพราะพระพิมพ์นี้ที่เป็นพระแท้ เนื้อพระจะละเอียดหนึกนุ่มแกร่ง สีเนื้อออกน้ำตาลอมแดงเป็นเงามันสวยงามมาก ที่สำคัญพิมพ์พระต้องเป็น พิมพ์เดียวกับพิมพ์ขนมเปี๊ยะเล็ก ขนาดต้องเท่ากัน (ตัดขอบ) หลังพระมีลายนิ้วมือ (ต่างจากพิมพ์อื่นที่เป็นลายกาบหมากหรือหลังเรียบ) อย่างองค์นี้ ที่เพิ่งมีผู้นำเข้าสู่วงการ ตรวจสอบแล้วว่า พระแท้ แต่ยังไม่มีใครกล้าซื้อเพราะเจ้าของตั้งราคาไว้สูงลิบ เขย่งไม่ถึง
ต่อไปคือ พระกริ่งก้นถ้วย (ใหญ่) ปี 2491 ซึ่งท่านเจ้าคุณพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) วัดสุทัศน์ สร้างไว้ 108 องค์ บรรจุกริ่งในตัว (แต่ง สวย 90 องค์ ไม่แต่ง 18) เนื้อในพระออกสีแดง ผิวนอกมีพรายเงินกลับดำ (แก่เงิน) ใต้ฐานลึกมีขอบแบบก้นถ้วย (จีน) ทุกองค์มีโค้ดตอกกำกับ ใต้ฐานมีทั้งที่ลงรอยจารอักขระลายมือและไม่มี ที่พบส่วนใหญ่เป็นพระแต่งสวยด้วยฝีมือ อ.นิรันดร์ แดงวิจิตร--องค์ในภาพนี้เป็นของ เสี่ยสาโรช เวชชาภินันท์
จากพระกริ่งไทยไปดูพระกริ่งแขก คือ พระกริ่งหน้าอินเดีย ปี 2482 พิมพ์ใหญ่ วัดสุทัศน์ เหมือนกัน
องค์นี้สมเด็จพระสังฆราช (แพ) เป็นประธานทำพิธีเททองสร้างไว้เป็นกรณีพิเศษ ณ วัดสุทัศน์ โดยมอบให้ เจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) เป็นเจ้าพิธี ตามคำขอของ คุณพระชัยบัญชา และ พระอาจารย์แสวง วัดสระเกศ เพื่อจะนำไปออกให้สาธุชนทำบุญบูชาที่วัดคลองด่าน
พระกริ่งก้นถ้วย(ใหญ่) 2491 เจ้าคุณศรีฯ -สนธิ์ ยติธโร วัดสุทัศน์ ของสาโรช เวชชาภินันท์
ต่อมาสมเด็จฯท่านได้สั่งงด (เพราะพระอาจารย์แสวงนำพิมพ์นี้ไปสร้างพระออกจำหน่ายก่อนกำหนด) จึงมีรับสั่งให้นำองค์พระที่เททองไว้แล้ว มาปาดบัวหลังออก เหลือเพียงบัวหน้า 7 คู่ เพื่อให้เห็นความแตกต่าง
พิมพ์พระมี 2 แบบ ใหญ่ เล็ก เททองสร้างแบบกริ่งในตัว มีรูอุดกริ่งอยู่ที่ฐานด้านหลังรูเดียว อยู่เยื้องมาทางขวาจุดเดียวกันทุกองค์ เนื้อในพระสีออกเหลือง ผิวนอกสีน้ำตาลปนแดง สมัยนั้นออกให้ทำบุญบูชาองค์ละ 2 บาท--แต่สมัยนี้ องค์สวยๆเนื้อจัดๆแบบองค์นี้ของ เสี่ยบอล ทวีทรัพย์ อยากได้จ่าย 2 แสน ยังไม่รู้จะตกลงโอเคหรือเปล่า
ต่อไปคือ เหรียญพระพุทธ หล่อโบราณ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ของ เสี่ยตุ้ย–สุขเกษม ปาริชาติดุสิต สภาพพระสวยเด่น ฟอร์มดี ดูง่าย เพราะพิมพ์พระถูกต้อง เนื้อทองแดงเก่า มีรอยเหี่ยวย่นยุบตัวตามอายุ อย่างนี้ราคาหลายแสนอยู่แล้ว
พระกริ่งหน้าอินเดีย ปี 2482 พิมพ์ใหญ่ วัดสุทัศน์ ของบอล ทวีทรัพย์
อีกเหรียญ เป็นของ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม เหรียญดีเหรียญดังของเมืองพระปฐมเจดีย์ ที่ได้รับความนิยมระดับ หลักแสน เพราะพุทธคุณดีเด่นด้านคงกระพันชาตรี มหาอุดหยุดลูกปืนล้วนๆ
ตอนออกแบบสร้าง ลูกศิษย์ไปบอกท่านว่า อยากได้เหรียญที่ยิงไม่ออก ท่านกำลังร้อนวิชาจึงบอกว่า งั้นก็ให้เอาปืนมานั่งทับไว้จะได้ยิงไม่ออก ศิษย์จึงออกแบบเหรียญตามนั้น แล้วเอาไปให้ท่านดู ท่านหัวเราะชอบใจยกใหญ่ แล้วอนุมัติว่าเอาแบบนี้
หลวงพ่อแช่ม มีชื่อเสียงมาก เพราะเป็นพระสหมิกธรรมรุ่นน้องของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก กับ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และเป็นพระอาจารย์พุทธาคม ของ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
ตามมาด้วย เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ ซึ่งจัดสร้างไว้เมื่อปี 2517 เพราะลูกศิษย์บอกว่าอยากได้ของดีหลวงพ่อแนวโชคลาภล่ำซำมั่ง
เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ ปี 2517
หลวงพ่อจึงสร้างเป็นเหรียญ มหาลาภ ให้รู้ว่ากูเก๊าะเก่งด้านนี้เหมือนกัน หาใช่ด้านแคล้วคลาดคงกระพันอย่างเดียวไม่--ใครมีตอนนี้ก็หลายหมื่น
ถัดไปเป็น พระปิดตามหายันต์ เนื้อชิน ที่ พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา พัทลุง สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2483 พร้อม พระมหาว่าน
เมื่อ 10 กว่าปีก่อน มีหลุดมาวางแผงในสนามกรุงเทพฯบ่อยๆ แต่ถูกนักนิยมพระเมืองใต้ตามเก็บเรียบ จนทุกวันนี้ไม่มีให้พบเห็นง่ายๆอีก ยิ่งเป็นพระสวยสภาพเดิม ไม่ผ่านการใช้ ผิวปรอทเต็มร้อยแบบองค์นี้ของ เสี่ยเฉลิมเกียรติ กาญจนศิราธิป แห่งศูนย์สินเชื่อ ธ.กรุงเทพ เชื่อได้ว่ามีเงินก็ไม่ใช่ง่ายที่จะหาพระได้แบบนี้
สุดท้ายไม่ใช่พระแต่เหมือนพระ คือ รูปถ่าย (ซีเปีย) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ สร้างออกคราวพิธีทำบุญอายุ โดยทรงสอนให้ผู้รับรู้จักวิธีกราบ 5 ครั้ง คือไหว้พระรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ทำให้ผู้ร่วมงานที่ได้รับภาพถ่ายนี้เรียกกันว่า รุ่นไหว้ 5 ครั้ง--เป็นวัตถุมงคลหายาก ที่ เสี่ยศักดิ์ ตลิ่งชัน ส่งมาเผยแพร่
เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม
ไปดู พระใหม่ ซึ่งคัดมาแต่รุ่นที่พิธีดีๆ เจตนาการจัดสร้างเหมาะสม รายการแรกเป็น เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รุ่น ทรงประทานพร ซึ่งพุทธาภิเษกไปเมื่อ 24 ก.พ. ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศฯ โดยมีพระเกจิ อาจารย์ เช่น หลวงพ่อ พูน หลวงพ่อเอียด หลวงพ่อแม้น ฯลฯ ร่วมสวดเสก
เหรียญสมเด็จญาณฯ รุ่นนี้ เห็นรูปแบบแล้วก็ต้องจอง เพราะสร้างเป็น ทรงเสมาฉลุลาย ยกองค์ ซึ่งกำลังนิยมมาก เพราะมีความงดงามอ่อนช้อย ประณีต--แบบที่ ลงยาราชาวดี ซึ่งสลับสีและเว้นช่องไฟได้ยิ่งสวยหยด เพราะใช้ ช่างลงยา ฝีมือดีที่สุดของวงการ และเป็นการ ลงยาร้อน ซึ่งสีจะสวยและคงทน และ เหรียญเสมาฉลุลาย ยกองค์ รุ่นนี้ ยังเป็น รุ่นแรก ของ สมเด็จพระสังฆราชฯ
จัดสร้างหลายเนื้อแต่อย่างละไม่มาก เนื้อทองคำมี 9 เหรียญ เนื้อเงินลงยาราชาวดี มีสีแดง นํ้าเงิน เขียว ฟ้า เหลือง สีละ 299 เหรียญ และเนื้อบรอนซ์ชุบทองลงยา เนื้อระฆัง เนื้อบรอนซ์ชุบพิงค์โกลด์
พระหลวงพ่อทวด รุ่นอภิมงคล พิมพ์เตารีดฉลุ ยกองค์ รุ่นแรก ของหลวงพ่อพรหม วัดพลานุภาพ ปัตตานี
รายได้ จากรุ่น ทรงประทานพร ก็เป็นกุศลเจตนาอันดีงามเหมาะสม เพราะจะใช้เป็นทุนการศึกษานักศึกษา ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลในราชบุรี และสร้างสาธารณกุศลให้เด็ก คนชรา และผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร--สอบถามได้ที่ 08-6300-2549, 08-1566-8889 และ 0-2467-5082
อีกรุ่นก็สวยเยี่ยม เพราะ เหรียญเสมาฉลุฯ ลพ.ทวด (พิมพ์หน้าเลื่อน) หลังพ่อท่านเขียว ฝังตะกรุดทองคำ รุ่นกิตติคุโณมหามงคล เนื้อบรอนซ์นอก และทองระฆัง เป็นงานของแพรนด้า จิวเวลรี่
รูปถ่ายสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ -เจริญ- วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ จากศักดิ์ ตลิ่งชัน
รุ่นนี้ครบเครื่อง ทั้งพิธีพุทธาภิเษกถึง 3 วาระโดย พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ซึ่งปลุกเสกเดี่ยว ปิดหัวท้าย วัตถุประสงค์เพื่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในไทย ณ มูลนิธิพระมหามงคลฯ อยุธยา
ตอนแรกเห็นตัวอย่าง เหรียญเนื้อทองระฆัง นึกว่าทองคำ เพราะผสมเนื้อได้เหลืองอร่ามเรืองรองเหมือนทองจริงๆ โบราณเชื่อกันว่าการนำระฆังมาสร้างพระ มีความหมายที่ดีเพราะสื่อถึงความดังกังวานเหมือนชื่อเสียงโด่งดังไปไกล และสีเหลืองทองยังเป็นสีสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา
ส่วน เนื้อบรอนซ์นอก เป็นเนื้อโลหะสูงค่า นิยมใช้ในงานหล่อมาตรฐานยุโรป ซึ่งแพรนด้านำมาหล่อด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้ได้สีชมพูสวยเหมือนสีนากสุกปลั่ง หรือพิงค์โกลด์ เมื่อมีตะกรุดทองคำ 99.99% บรรจุด้านหลังทุกเหรียญ จึงทำให้ได้รับความนิยมที่สุด เพราะมีทั้งทองและนาก--สอบถามได้ที่ 0-2221-5791-2, 0-2467-5082, 08-1698-5995
เหรียญเสมาฉลุฯ หลวงพ่อทวด -พิมพ์หน้าเลื่อน- หลังพ่อท่านเขียว ฝังตะกรุดทองคำ รุ่นกิตติคุโณมหามงคล
รายการสุดท้ายก็เป็น พระหลวงพ่อทวด คือรุ่น อภิมงคล ซึ่งเป็น ครั้งแรก ที่มีการจัดสร้าง พิมพ์เตา-รีดฉลุ ยกองค์ (ประกบ 3 ชิ้น) ซึ่งโรงงานที่ทำได้สวยสุดก็ต้องแพรนด้า จิวเวลรี่ อีกเหมือนกัน
โดยประยุกต์แบบจาก หลวงปู่ทวด พิมพ์เตารีด รุ่นแรก และเพิ่มลวดลายให้วิจิตร งดงาม มีเอกลักษณ์ ด้านหลังตรงกลางเป็นรูปเจดีย์วัดช้างให้ ซ้าย-ขวา เป็นคาถาบาลีบูชาหลวง ปู่ทวด นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา--ด้านล่างมีรูป ช้าง สัญลักษณ์วัดช้างให้ และมีชื่อ หลวงพ่อพรหม ธมฺมธีโร (หรือ พระครูธรรมพลาธร) พระเกจิชื่อดังแห่งวัดพลานุภาพ ปัตตานี
พ่อท่านพรหม นี้ ทหารใน 3 จังหวัดภาคใต้ ขึ้น กันมาก เพราะวัตถุมงคลที่ท่านแจกให้ มีประสบการณ์บ่อยๆ ยิงไม่เข้า ยิงไม่ออก โดนขว้างระเบิดยังรอด แบบแขนขาครบ ไส้ก็ยังอยู่ บางรายโดนฟ้าผ่าก็รอดเฉย--ที่ฮือฮามาก คือมีทหารแห่ไปที่วัดเพื่อขอวัตถุมงคล หลังจากมีเพื่อนถูกยิงหลายนัดแต่ไม่เข้า และในตัวมีวัตถุมงคลของพ่อท่านพรหมเพียงชิ้นเดียว
เมื่อขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 พ่อท่านพรหม ได้ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว ก่อนออกให้บูชา เพื่อนำรายได้สร้างศาลาการเปรียญและซ่อมเสนาสนะต่างๆ
เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ รุ่นทรงประทานพร ทรงเสมาฉลุลาย ยกองค์ รุ่นแรก
สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์พระทั่วไป 08-1701-5957 หรือ www.tamnanpra.com และชมรมตำนานพระเครื่อง เมืองทองธานี
ลากันด้วยเรื่อง เสี่ยปรมัย ซึ่งเป็นนักเรียนนอก พอกลับมาก็ลุยทำธุรกิจจนไม่มีเวลาทำอะไร และลืมทำบุญให้พ่อซึ่งตายไป 7-8 ปีก่อนสนิท
พ่อคงรอแล้วรออีก เช็งเม้งแร้ว มันยังไม่ส่งหมูเห็ดเป็ดปักกิ่งมาให้กินเลย จึงมาเข้าฝัน เสี่ยปรมัย เลยนึกได้ เออ ไม่เคยทำบุญให้พ่อเลย จึงไปบอกแม่ให้นิมนต์พระมาฉันที่บ้าน
ก่อนวันงานก็ไปเปิดห้องพระ เอาพระออกมาตั้งโต๊ะหมู่ เหลือบไปเห็น ขันน้ำมนต์ เก่าๆในนั้น มีพระ 2 องค์ ก็เลยเอาลงมาให้พระใช้พรมน้ำมนต์ด้วย
วันทำบุญ พอพระให้พรแล้ว หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็บอก เสี่ยปรมัย ว่าเอ้า อธิษฐานซะเพราะบาตรกับพระ 2 องค์เนียะศักดิ์สิทธิ์มาก อยากได้อะไรก็ขอ
เสี่ยปรมัย ตาโต ถามหลวงพ่อว่า ได้แน่นะหลวงพ่อ หลวงพ่อพยักหน้า ชัวร์
เสี่ยปรมัย ซึ่งกำลังอยากได้เงินไปลงทุนบอกว่า ดีเลย แล้วอธิษฐานลั่นบ้าน ขอให้ได้เงิน 2 ล้านภายในวันสองวัน อธิษฐาน เสร็จก็ย้ำกับหลวงพ่อว่าได้แน่นะ
หลวงพ่อเจ้าอาวาสพยักหน้า ได้เลย ถ้าเอาบาตรกับพระชุดนี้ไปขาย เพราะรู้ไหมว่าที่พ่อโยมทิ้งไว้ ให้เนี่ย เป็น ขันน้ำมนต์ปทุมโลหิต ของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) พระ 2 องค์ก็เป็น พระกริ่งธรรมโกษาจารย์ และ พระชัยฯ 79 เชียวนะ ขายปุ๊บได้เงินปั๊บ
เสี่ยปรมัย ซึ่งไม่รู้เรื่องพระและไม่ค่อยสนใจ ก็เลยได้เงิน 2 ล้านจริงๆ เพราะถามโน่นถามนี่สักพัก ก็ตามหลวงพ่อไปเอาเงินวัด--เพราะกลายเป็นว่า หลวงพ่อจัดให้ สวดเองเช่าเอง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
ข้อมูลจากเว็ป http://www.thairath.co.th
|
|
|
|
พระมณเฑียร