พระเครื่อง มณเฑียร
 ร้าน  ทรัพย์สมบูรณ์พระเครื่อง [เอก ทรัพย์สมบูรณ์]
 
 พระเครื่อง  มณเฑียร หน้าพระมณเฑียร      พระเครื่อง  มณเฑียร หน้าร้าน    พระเครื่อง  มณเฑียร การรับประกัน / การชําระเงิน     พระเครื่อง  มณเฑียร รายละเอียดของร้าน

ตะกรุดชินบัญชร หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ปี2540



พระเครื่อง ตะกรุดชินบัญชร หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ปี2540

พระเครื่อง ตะกรุดชินบัญชร หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ปี2540



รหัสพระเครื่อง   MT1018556
ชื่อพระเครื่อง   ตะกรุดชินบัญชร หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ปี2540
ราคา      1,500 
รายละเอียด   ตะกรุดชินบัญชร ปี2540 หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ดอกนี้สภาพสวยเดิมๆโค๊ตชัดๆ จำนวนการสร้างน้อยแค่ 2,000 ดอกเท่านั้นในปัจจุบันจะเหลือตะกรุดที่สวยๆแบบนี้ซักกี่ดอก.....ตะกรุดชินบัญชร จัดสร้างในชื่อรุ่น"ชินบัญชร" ปี2540 ทุกดอกสร้างด้วยเนื้อตะกั่ว(หลวงปู่มี เคยบอกให้ลูกศิษย์ฟังว่าตะกั่วนี่แหละลงง่ายบรรจุพลังง่าย)ทุกดอกมีขนาดยาวประมาณ 3 นิ้ว จัดสร้างจำนวนจำกันแค่ 2,000 ดอกเท่านั้น………ตะกรุดชินบัญชรนี้ด้านในจะปั๊มด้วยเครื่อง เป็นรูปองค์หลวงปู่มีนั่งแบบมารวิชัยบนธรรมาส—มียันต์เกราะเพชรด้านบน—มียันต์นะพระไตรปิฎก,,ยันต์นะยอดพระนิพาน,,ยันต์นะหน้าทอง,,ยันต์นะยอดศีลอยู่สองข้าง--และยังมีอักขระพระคาถาต่างๆอีกหลายบท--ทั้งหมดนี้ถูกล้อมรอบด้วยพระคาถาชินบัญชรอีกทีหนึ่ง และยัง จารอักขระพระคาถา"พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า"ด้วยมือที่ด้านล่างต่อจากยันต์ปั๊ม(ถือว่าเป็นตะกรุดที่ปั๊มยันต์ด้วยเครื่อง และจารมือในดอกเดียวกัน) และ อีกด้านหนึ่งตรงปลายจะตอกโค๊ต”ชินะปัญชะระ”เป็นตัวขอม ทุกดอก…….***(โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน) พระพุทธคุณของรุ่นนี้ มีมากมาย แล้วแต่จะอารธนาใช้บูชาได้ครอบจักรวาล………เกี่ยวกับเรื่องอักขระพระยันต์ต่างๆในตะกรุดรุ่นนี้มีดังนี้พระคาถาชินบัญชร พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษีค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงองค์สมเด็จโต และ หลวงปู่มี แล้วเริ่มสวด--ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ---เริ่มบทพระคาถาชินบัญชร---1.ชะยาสะนากะตาพุทธา เชตะวามานังสะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภังระสัง เยปิวิงสุ นะราสะภา.--2.ตัณหังกะราทะโยพุทธา อัฏฐะวีสะตินายะกา สัพเพปะติฏฐิตามัยหัง มัตถะเกเตมุนิสสะรา.--3.สีเสปะติฏฐิโตมัยหัง พุทโธธัมโมทะวิโลจะเน สังโฆปะติฏฐิโตมัยหัง อุเรสัพพะคุณากะโร.--4.หะทะเยเมอะนุรุทโธ สารีปุตโตจะทักขิเณ โกณฑัญโญปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโนจะวามะเก.--5.ทักขิเณสะวะเน มัยหัง อาสุงอานันทะราหุโล กัสสะโปจะมะหานาโม อุภาสุงวามะโสตะเก.--6.เกสันเตปิฏฐิภาคัสมิง สุริโยวะปะภังกะโร นิสินโนสิริสัมปันโน โสภิโตมุนิปุงคะโว--7.กุมาระกัสสโปเถโร มะเหสีจิตตะวาทะโก โสมัยหังวะทะเนนิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.--8.ปุณโณอังคุลิมาโรจะ อุปาลีนันทะสีวะลี เถราปัญจะอิเมชาตา นะลาเตติละกามะมะ.--9.เสสาสีติมะหาเถรา วิชิตาชินะสาวะกา เอเตสีติมะหาเถรา ชิตะวันโตชิโนระสา ชะลันตาสีละเตเชนะ อังคะมังเคสุสัณฐิตา.--10.ระตะนังปุระโตอาสิ ทักขิเณเมตตะสุตตะกัง ธะชัคคังปัจฉะโตอาสิ วาเมอังคุลิมาละกัง.--11.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อากาเสฉะทะนังอาสิ เสสาปาการะสัณฐิตา.---12.ชินานานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา.--13.อะเสสาวินะยังยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา วะสะโตเมสะกิจเจนะ สะทาสัมพุทธะปัญชะเร.--14.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตังมะฮีตะเล สะทาปาเลนตุมังสัพเพ เตมะหาปุริสาสะภา.--15.อิจเจวะมันโต สุคุตโตสุรักโข ชินานุภาเวนะชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.(จะสวด1,3,5,7,9-108 จบก็ตามสะดวก แล้วอธิษฐานเอาตามที่ต้องการเถิดประสิทธิ์นักแล) .....-“ยันต์เกราะเพชรพระพุทธเจ้า” ยันต์เกราะเพชรนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านได้ศึกษามาจากตำราพระร่วง โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม เป็นการนำเอาคาถาพระพุทธคุณบทต้นมาเขียนเป็น ตัวขอม แล้วอ่านตามแนวนอนก็จะอ่านได้ว่า…*อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ( กระทู้เจ็ดแบก ) …*ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ( ฝนแสนห่า ) …*ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ( นารายณ์เกลื่อนสมุทร์ ) …*โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ ( นารายณ์ขว้างจักร ) …*ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ( ตวาดป่าหิมพานต์ ) …*คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ ( นารายณ์เกลื่อนจักร ) …*วา โธ โน อะ มะ มะ วา ( นารายณ์พลิกแผ่นดิน ) …*อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ ( นารายณ์แปลงรูป )---แต่ถ้าอ่านตามแนวตั้งเรียงเป็นแถวก็จะได้เป็นพระคาถา”อิติปิโส ๘ ทิศ” อ่านได้ดังนี้ *อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ* เรียกกันว่า “ห้องพระพุทธคุณ” แต่เขียนลงมาอย่างหนังสือเจ๊ก เขียนลง ไม่เขียนตามบรรทัดแนวนอน แต่จะเขียนลงมา ๘ คำ แล้วก็ไปขึ้นต้นใหม่ในแถวต่อไปเรียงกันไปได้แนวตั้ง ๗ แถว,แนวนอน ๘ แถว แล้วก็ชักลากเส้นไขว้เป็นยันต์เกราะเพชร เรียกสูตรตามเส้นที่เขียนลากชักไป แต่จะเพิ่ม “อุนาโลม” ตัวสำเร็จขึ้นที่ตัว "โล" ทำให้บังเกิดเป็นยันต์ประสานกันดุจมีกำแพงแก้วทั้ง ๘ ชั้นเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันภัยภยันตรายทุกชนิด อันยันต์เกราะเพชรหรือพระคาถาอิติปิโส ๘ บทนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์และมีอุปเท่วิธีใช้แต่ะบทที่พิสดารมากมาย เพราะนอกจากจะใช้คุ้มครองป้องกันตัวได้ดี ยังมีอานุภาพสูงทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีแคล้วคลาด และเมตตามหานิยมยอดเยี่ยมแล้ว ยังใช้กษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้อย่างวิเศษอีกด้วยดังคนโบราณท่านว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" คือมีอุปเท่ห์วิธีใช้อันแยบยลที่สุดแสนจะศักดิ์สิทธิ์มากมายนั่นเอง”ยันต์นะยอดศีล”และ พระคาถาหัวใจยอดศีล คือ "พุทธสังมิ" ในสมัยที่หลวงพ่อปานออกธุดงค์คือประมาณปี พ.ศ. ๒๔๔๖ ท่านพบลายแทงฉบับหนึ่งบ่งบอกว่า มีขุมทรัพย์และพระคาถามหายันต์อันศักดิ์สิธิ์บรรจุอยู่ภายในพระปรางค์ร้างวัดพระศรีมหาธาตุ สุพรรณบุรี
หลวงพ่อปาน มีความสนใจในพระคาถามหายันต์นั้นเป็นอย่างมาก ท่านจึงออกธุดงค์ดั้นด้นค้นหาพระปรางค์ร้างจนพบและทำการขุดเจาะรงตำแหน่งลายแทง ก็พบทรัพย์สมบัติและพระพิมพ์ต่างๆ มากมายบรรจุอยู่ในพระปรางค์ แต่ท่านก็ไม่มีความสนใจในทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าต่างๆ เหล่านั้นเลย นอกจากผอบทองคำใบหนึ่งซึ่งภายในมีแผ่นลานทอง จารึกพระคาถาและอุปเท่ห์วิธีใช้ที่พระฤาษี ๑๐๘ ตน ร่วมกันชักยันต์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อมอบแด่ผู้มีบุญต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อหลวงพ่อปานได้พระคาถามหายันต์ไปใช้แล้วก็นำมาท่องจนขึ้นใจสามารถชักยันต์ได้จนมีความชำนาญ จึงนำแผ่นลานทองเก็บไว้ในผอบทองคำตามเดิมแล้วนำมาบรรจุที่ใต้ฐานพระพุทธรูปองค์หนึง จากนั้นหลวงพ่ปานก็นำพระคาถามหายันต์นั้นมาใช้ได้บังเกิดผลอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่น่าอัศจรรย์ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปานพิมพ์รูปของท่านออกแจก จึงประทับมหายันต์นั้นไว้บนศีรษะมหายันต์ดังกล่าวนั้นคือ "ยันต์เฑาว์พุทธะ" หรือ ”ยันต์นะยอดศีล”นั่นเอง ยันต์เฑาว์พุทธะนี้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งเพราะพระฤาษีผู้ทรงอภิญญาร่วมกันชักยันต์ขึ้นภึง ๑๐๘ ตน นอกจากจะใช้ป้องกันภูตผีปีศาจแล้ว ยังใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บทั้งภายในและภายนอกได้ดี โดยพิมพ์ยันต์ลงบนผ้า ปิดตามร่างกายที่ปวดเช่น ปวดศีรษะ ปวดบวมตามร่างกาย หรือจะสูญฝีก็ได้ให้ใช้นิ้วจุ่มน้ำลายใต้ลิ้น เขียนยันต์สูญรอบๆฝีหรือจะลงแก้มแก้คางทูมก็ได้ดียิ่งนัก ให้ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย พระฤาษี ๑๐๘ ตน และหลวงพ่อปานเท่านั้นก็หายสิ้นแล …….นะยอดนิพพานและนะพระไตรปิฎก ยันต์นะยอดพระนิพพาน และนะพระไตรปิฎก หลวงปู่มีได้เรียนมาจากหลวงพ่อเขียนวัดบ้านพร้าวนอก จ.ปทุมธานี นะวิเศษทั้งสองเป็นมรดกสืบทอดจากบรรพบุรุษดั้งเดิมของหลวงพ่อเขียน ซึงเป็นชาว รามัญ หรือที่เรารู้จักในนามว่า "มอญ" หลวงปู่มี เคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า หลวงพ่อเขียนซึ่งเป็นหลวงน้าแท้ๆ เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญบรรพบุรุษล้วนอุปสมบทเป็นพระภิกษุติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ตำหรับตำราทางด้านพระเวทที่ตกทอดกันมาของชาวรามัญนั้นล้วนเข็มขลังยิ่งนักสามารถกล่าวได้ว่า วิชาคงกระพันชาตรีเป็นเอกหาผู้ใดจับได้ยาก เพราะในอดีตชาวรามัญล้วนเป็นนักรบที่เก่งกล้าเชี่ยวชาญการศึกแต่รักสันติ ไม่รุกรานข่มเหงรังแกใคร โดยใช้ชีวิตร่อนเร่ไปตามน้ำ ดังนั้นจึงต้องมีวิชาอาคมสูงจึงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ คำว่า "นิพพาน" ก็บอกอยู่แล้วว่าหมายถึงความดับแห่งกิเลสและกองทุกข์ทั้งปวง ไม่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อพระโบราณจารย์ผู้เรืองวิชาชาวรามัญนำมาผูกเป็นยันต์บรรจุพระคาถาหัวใจยอดพระนิพพานคือ "อะระหังไม่มีการตายอีกแล้ว นะวิเศษตัวนี้จึงมีอานุภาพสูงทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรีผู้ใดจะฆ่าก็ไม่ตายเพราะเหนียวตั้งแต่หนัง,เนื้อ จนถึงกระดูก…….ความเป็นมาของ ยันต์ครูสามอาจารย์ หรือ “ยันต์นะหน้าทอง”หลวงพ่อจงท่านร่ำเรียน "ยันต์นะหน้าทอง" มาจากพระอาจารย์หลายรูปด้วยกัน องค์แรกคือ หลวงพ่อโพธิ์ วัดหน้าต่างใน ต่อมาได้ไปเรียน"ยันต์นะภัทรกัป"จากหลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคันธ์ ในภายหลังประมาณปี พ.ศ.2450 หลวงพ่อจงออกธุดงค์ไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากองประเทศพม่าก็บังเอิญได้เรียน "นะมหาละลวย" กับพระอาจารย์อีกรูปหนึ่งภายในดงพญาเย็น "นะ" ต่างๆที่หลวงพ่อจงท่านได้เรียนมานั้นไม่ว่าจะเป็น”นะหน้าทอง” –“นะภัทรกัป”- “นะทรงธีณี” หรือแม้แต่ “นะมหาละลวย” ก็คือ"ยันต์นะพระเจ้า 5 พระองค์" ที่อ่านว่า "นะโมพุทธายะ" ซึ่งมีสูตรการลงนะแบบเดียวกันทั้งสิ้น เรียกว่าเหมือนกันทุกประการแต่การที่พระอาจารย์แต่ละท่านเรียกนามต่างกัน เนื่องจากตัวนะเป็นตัววิเศษสุดกว่าตัวอื่นๆเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์และมีอุปเท่ห์วิธีใช้ที่แยบยลและมีความพิสดารมากมายนั้นเองหลวงพ่อจงท่านร่ำเรียนนะดังกล่าวมากับพระอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมหลายรูปดังนั้นท่านจึงมีความนับถือยันต์”นะหน้าทอง”นี้มากเวลาท่านจะเป่ากระหม่อมลงแผ่นโลหะลงผ้าประเจียด หรือแม้แต่การปลุกเสก เครื่องรางของขลังอื่นๆทุกชนิดท่านจะใช้พระคาถาหรือสูตรลงนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเรียกว่าเป็นยันต์ครูประจำตัวเรื่องนี้มีผู้ทราบจากปากคำของ หลวงพ่อนิล วัดหน้าต่างใน ซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายโลหิตแท้ๆ ของหลวงพ่อจง ได้เล่าสาเหตุที่ท่านสร้างเหรียญหลวงพ่อจงรูปหยดน้ำ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2479 ว่าหลวงพ่อจงท่านจำเพาะเจาะจงให้ประทับยันต์ "นะหน้าทอง" ลงที่ด้านหลังเหรียญด้วยสาเหตุที่ท่านนับถือใช้เป็นยันต์ประจำตัวเพราะได้ร่ำเรียนมากับพระอาจารย์หลายรูปดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง หลวงปู่มี อธิบายสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่หลวงพ่อจงท่านนับถือยันต์ “นะหน้าทอง”มากก็เพราะว่าเป็นพระคาถาหัวใจพระเจ้า 5 พระองค์ คือ "นะโมพุทธายะ" อันเป็นนามพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัป คือ กัปอันเจริญปัจจุบันนี้ซึ่งมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง 5 พระองค์ คือ…”นะ” หมายถึงพระกกุสันโธ…”โม” หมายถึงพระโกนาคมน์…”พุท” หมายถึงพระกัสสปะ…”ธา” หมายถึงพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าที่เรากราบไหว้องค์ปัจจุบัน…”ยะ” หมายถึงพระศรีอาริยเมตไตรยพระพุทธเจ้าองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต…..เมื่อ "นะหน้าทอง" ตกทอดมาถึง หลวงปู่มี พระเถราจารย์จอมขมังเวทย์ผู้ร่ำเรียนวิทยาคมถึง 3 องค์ ได้เพิ่มเติม พระคาถาหัวใจยอดศีล คือ "พุทธสังมิ" ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และ พระคาถาหัวใจป้องกันอาวุธพันชนิด "นะอุธัง" ของหลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าว ลงไปในยันต์ อีก เพื่อเป็นการระลึกถึง 3 พระจารย์ผู้ถ่ายทอดยอดวิชาแก่หลวงปู่มีดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า”ยันต์นะหน้าทอง”ของหลวงปู่มี วัดมารวิชัย จึงศักดิ์สิทธิ์ใช้ได้สารพัดครอบจักรวาลเป็นทวีคูณเมื่อท่านนำมาประทับไว้ในอิทธิมงคลและใช้ปลุกเสกวัตถุต่างๆของท่านย่อมเต็มไปด้วยพุทธาปาฎิหาริย์ให้คุณแก่ผู้บูชาสักการะอย่างอเนกอนันต์ทุกประการ…ในปีพ.ศ. ๒๔๘๑ หลวงปู่มีจึงมาฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อจงอย่างจริงจัง โดยหลวงปู่มี ขอเรียนวิชาทำตะกรุดกับท่านก่อนตามที่เคยตั้งใจไว้ตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส สาเหตุที่หลวงปู่มีตั้งใจที่จะเรียนวิชาทำตะกรุดจากหลวงพ่อจงนั้นเนื่องจากในสมัยหลวงปู่มี ยังเป็นฆารวาสเคยมีคนมาลองของกับหลวงพ่อจง ด้วยการเอาตะกรุดให้ท่านเป่าแล้วไปลองยิงปรากฎว่าปืนขัดลำกล้อง แต่เมื่อหันปากกระบอกปืนไปทางอื่นเสียงปืนก็ลั่นเปรี้ยงทันทีเมื่อหลวงปู่มี ประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์ในตะกรุดที่หลวงพ่อจง เป่าด้วยสายตาตัวเองเช่นนี้ จึงตั้งใจไว้ว่าเมื่อบวชเรียนจะมาขอวิชาจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา หลวงพ่อจง ท่านสอนวิธีลง”นะหน้าทอง”ให้แก่หลวงปู่มี และบอกให้ใช้”นะหน้าทอง”ตัวนี้ลงแผ่นโลหะทำตะกรุดเมตตาหลวงปู่มี จึงถามหลวงพ่อจง ขึ้นว่า *(เมื่อลงเมตตามหานิยมทำไมถึงยิงไม่ออก)* หลวงพ่อจง เปิดเผยเคล็ดลับในการใช้วิทยาอาคมโดยไม่ปิดบังอำพรางแก่หลวงปู่มี “ว่าลงทางเมตตาก็จริง แต่เวลาปลุกเสกเริ่มต้นอย่างไร ให้ลงท้ายว่าอย่างนั้นจะเป็นมหาอุตม์ เพราะยันต์นะหน้าทองมีความศักดิ์สิทธิ์ใช้ได้สารพัด ข้อสำคัญต้องสร้างสมาธิจิตของตนเองให้แก่กล้าจึงจะใช้ได้สารพัดตามใจ” นึกดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มสมาธิจิตให้กล้าแข็งอันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการเล่าเรียนพระเวทย์ หลวงพ่อจงท่านจึงถ่ายทอดวิธีปฎิบัติการเพ่ง เตโชกสิณ แก่หลวงปู่มี พร้อมๆกับการสอนสูตรการลง “นะหน้าทอง” หลวงปู่มี ผู้สำเร็จอสุภกรรมฐานกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค แล้วยังได้วิชากสิณไฟจากหลวงพ่อจง อันเป็นกรรมฐานเกี่ยวกับการสร้างพลังจิตทั้งสิ้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมอิทธิมงคลทุกอย่างที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่มี ล้วนมีประสบการณ์เข้มขลัง เป็นที่กล่าวขานโดยทั่วไปหลวงปู่มีได้ศึกษากรรมฐานและวิทยาคมต่างๆมากับหลวงพ่อจงเป็นเวลานานเกือบ ๓๐ ปีท่านได้เดินทางไปๆมาๆระหว่างวัดหน้าต่างนอกและวัดมารวิชัยอยู่เสมอๆ ทั้งยังได้ร่วมงานกับหลวงพ่อจงอย่างใกล้ชิดอยู่บ่อยครั้ง และได้ปฏิบัติดูแลหลวงพ่อจงตราบจนท่านสิ้นลมหายใจ สำหรับยันต์"นะหน้าทอง"นี้ หลวงปู่มี บอกว่าตัวเดียว พอแล้ว "ขอให้จิตใสสว่าง ทำได้ทุกอย่างที่ปรารถนา เสื่อมแล้ว เป่าใหม่ได้ ใช้ได้เหมือนเดิม" ………”หลวงปู่มี พระเถราจารย์จอมขมังเวทแห่งวัดมารวิชัยท่านได้สร้างเสกอิทธิวัตถุมงคลออกมาหลายพิมพ์หลายรุ่นหลายแบบ แต่แทบทุกรุ่นทุกชนิดก็สร้างน้อยมีจำนวนจำกัด เมื่อหมดให้เช่าบูชาหมดไปแล้วก็หมดกันไป ไม่มีการสร้างเสริมเพิ่มเติมขึ้นมาอีก จึ่งทำให้วัตถุมงคลทุกชนิดของหลวงปู่มีน่าสะสม และ วัตถุมงคลของท่าน สะสมเล่นหาง่าย มีเอกลักษณ์เป็นแบบเฉพาะโดดเด่น มีโค๊ตกำกับในการแยกรุ่น แยกเนื้อ แยกพิมพ์ และที่สำคัญยิ่งคือ ผู้นำวัตถุมงคลไปใช้บูชาก็ได้ผล เป็นประจักชัด มีประสพการมากมาย วัตถุมงคลของหลวงปู่มี นั้นอาราธนาใช้ได้ครอบจักรวาล เพราะบารมีแห่งอักขระพระคาถาที่บรรจุอยู่ในวัตถุมงคล และ ได้รับการปลุกเสกบรรจุพลังจากหลวงปู่มี วัดมารวิชัย(ที่มีสมาธิจิตแข็งแกร่ง วิชาอาคมแก่กล้า มีวิธีการปลุกเสกที่เป็นเอกลักษณ์ หาใครเหมือนได้ยาก)………ท่านที่กำลังมองหา หรือ สะสมวัตถุมงคลหลวงปู่มี วัดมารวิชัย อย่ามองข้ามรุ่นนี้ เพราะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ จำนวนสร้างน้อย__***ปัจจุบันมีของปลอมออกมาหลายฝีมือท่านควรเลือกเช่าหาจากร้านที่มีความหน้าเชื่อถือมีการรับประกัน และควรเลือกเก็บสะสมองค์ที่สวยๆเพื่อมูลค่าเพิ่มในอนาคต__พระองค์นี้ท่านลูกค้าชมองค์จริงได้ที่ 94/2 หมู่4 ซ.อ่อนนุช63 ถ.สุขุมวิท77 แขวง/เขตประเวศ กทม.((กรุณาโทรนัดล่วงหน้า))***__kittiphon0707@gmail.com__Line ID : aek333s
เข้าชมร้าน     ทรัพย์สมบูรณ์พระเครื่อง [เอก ทรัพย์สมบูรณ์]
โทรศัพท์     0860039239 , 02
ผู้เข้าชม   8548
*** ตะกรุดชินบัญชร ปี2540 หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ดอกนี้สภาพสวยเดิมๆโค๊ตชัดๆ จำนวนการสร้างน้อยแค่ 2,000 ดอกเท่านั้น ***



  พระเครื่อง มณเฑียร   สงวนลิขสิทธิ์ เนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ปี 2011 ชมรมพระเครื่อง มณเฑียร   พระเครื่อง มณเฑียร  
 
พระเครื่อง มณเฑียร เว็บไซด์ : พระมณเฑียร : WWW.PRAMONTIEN.COM   พระเครื่อง มณเฑียร
 
ห้ามคลิกขวา