\ ข่าวพระเครื่อง ขยัน ซื่อสัตย์ ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์?ใหญ่ มรดกไทย - ขยัน ซื่อสัตย์ ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์’ใหญ่ มรดกไทย : พระเครื่อง มณเฑียร
เว็บพระมณเฑียร ศูนย์รวม ร้านค้าพระเครื่อง ยอดนิยม ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน พระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคลต่างๆ
พระเครื่อง พระมณเฑียร  พระมณเฑียร  ͧ   สมัครเปิดร้าน  ͧ   พระเครื่องมาใหม่  พระเครื่อง พระมณเฑียร   ข่าวพระเครื่อง/บทความ พระเครื่อง พระมณเฑียร    ร้านพระเครื่อง พระเครื่อง พระมณเฑียร  ติดต่อ    ค้นหาพระ:   ENG Version











ขยัน ซื่อสัตย์ ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์?ใหญ่ มรดกไทย



‘ขยัน ซื่อสัตย์ ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์’ใหญ่ มรดกไทย

‘ขยัน ซื่อสัตย์ ไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์’ ใหญ่ มรดกไทย (สราวุธ ลี้ชัยมงคล) : เส้นทางนักพระเครื่อง โดยตาล ตันหยง

วงการพระเครื่องเมืองไทย ทุกวันนี้ น้อยคนนักที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อ บอย ท่าพระจันทร์ มาก่อน ในฐานะที่เป็นคนหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต บนเส้นทางสายพระเครื่องมานานกว่า ๑๕ ปี ด้วยสายตาอันเฉียบขาดในการดูพระเครื่องประเภทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะพระเครื่องประเภทเหรียญ
ความสำเร็จในชีวิตของ บอย ท่าพระจันทร์ จุดประกายให้คนหนุ่มในวัยเดียวกัน หรือคนรุ่นน้องๆ อยากจะเป็นเหมือนอย่างเขาบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต มีหลักทรัพย์ที่มั่นคง และมีเงินหลักล้านตั้งแต่อายุยังน้อย
หลายคนที่เดินตามแบบอย่างของ บอย ท่าพระจันทร์ และมีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จเหมือนกับ บอย บนเส้นทางสายนี้
ขณะเดียวกัน บอย ท่าพระจันทร์ ก็เป็นผู้ที่มีน้ำใจไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือพรรคพวกเพื่อนฝูง และน้องๆ ที่สนใจอาชีพซื้อขายพระเครื่อง ได้มีโอกาสเข้ามาสู่วงการนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากเขามาโดยตลอด และหนึ่งในนั้นก็คือ ใหญ่ มรดกไทย (สราวุธ ลี้ชัยมงคล) ใหญ่ มรดกไทย เป็นชาวท่าพระ ธนบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มรภ.จันทร์เกษม จากนั้นได้เข้าสู่วงการพระเครื่อง โดยการชักชวนของ บอย ท่าพระจันทร์

“สมัยเด็กๆ ช่วงปิดเทอม ผมจะติดตามคุณพ่อไปขายรองเท้าตามโรงพักต่างๆ ลูกค้าส่วนใหญ่คือตำรวจ แม้ว่าจะได้รับแจกรองเท้าจากทางราชการแล้ว แต่รองเท้าส่วนตัวก็ต้องซื้อเอง โดยขายได้กำไรคู่ละไม่ถึง ๑๐๐ บาท ตอนเปิดเทอมผมก็ไปโรงเรียนตามปกติ พอดี “เฮียบอย” ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม รู้ข่าวว่าผมลำบากมาก จึงเรียกไปพบที่สนามพระมรดกไทย บนชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน (สมัยนั้นยังเป็นห้างบางลำภู) ในวันเสาร์วันอาทิตย์ที่ผมไม่ต้องไปโรงเรียน เพื่อสอนให้ผมดูพระเป็น จะได้ยึดเป็นอาชีพ ขั้นแรกเฮียบอยจะสอนผมอย่างตรงไปตรงมา โดยหยิบเหรียญมาให้ศึกษาก่อน พร้อมกับชี้จุดให้ดูว่า เหรียญแท้มีจุดตำหนิตรงไหนบ้าง สอนกันแบบตัวต่อตัว จนผมจดจำได้ ต่อมาเฮียบอยจะหยิบเหรียญอื่นๆ ให้มาศึกษาเอาเอง โดยบอกว่า เหรียญนี้เป็นเหรียญแท้ ขอให้จดจำเอาเองว่า มีจุดตำหนิตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะใบหน้าหลวงพ่อ แล้วจำเอาไว้ เฮียบอยบอกว่า จะสอนอย่างไรก็ตาม ต้องกลับไปศึกษาด้วยตัวเองเสมอ ขณะเดียวกันก็ต้องอ่านหนังสือพระด้วย ผมอ่านทุกวัน ดูรูปพระ ดูรุ่น ดูราคา และตำหนิเหรียญต่างๆ ที่หนังสือลงไว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาเรื่องเหรียญพระ พร้อมกับนำมาเปรียบเทียบกับเหรียญจริง กว่า ๔ ปีที่ผมได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการดูพระจากเฮียบอย จนมั่นใจว่า น่าจะเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่ง จึงลองซื้อเหรียญด้วยตัวเอง โดยเริ่มจากเหรียญพื้นๆ ที่มีราคาไม่สูงนัก เมื่อเอามาให้เฮียบอยดู ปรากฏว่าเป็นเหรียญแท้ ผมดีใจมาก เพราะเท่ากับได้สอบผ่านในเหรียญนั้นแล้ว หลังจากนั้นก็จะขยับดูเหรียญที่มีอายุการสร้างเก่าขึ้นเรื่อยๆ อาศัยว่าที่ร้านของเฮียบอยมีเหรียญแท้ของจริงให้ศึกษามากมาย อยากรู้ดูเหรียญอะไรก็หยิบมาส่องดูได้เสมอ เฮียบอยไม่เคยหวงห้ามเลย” ใหญ่ เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เข้ามาสู่วงการพระ
ในการพิจารณาว่า เป็นเหรียญแท้หรือเหรียญปลอม ใหญ่บอกว่า คือ ดูที่พิมพ์ จำใบหน้าหลวงพ่อ (หรือหน้าพระพุทธรูปในเหรียญ) ให้ได้ ถ้าหน้าเพี้ยน ไม่เหมือนกับเหรียญแท้ที่เคยดูมาก่อนก็วางลงได้เลย ไม่ต้องดูอย่างอื่นต่อ หากใบหน้าเหมือนของจริงจึงค่อยดูจุดอื่นต่อ เช่น ข้างเหรียญ ดูขอบตัด ซึ่งเป็นตัวชี้ขาดได้ ๒๐% ด้านหน้าเหรียญ ๔๐% ด้านหลังเหรียญ ๔๐% นอกจากนี้ก็ดูที่ความเก่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และที่ต้องระวังมาก คือ เหรียญที่ทำผิวใหม่ ซึ่งสมัยนี้ทำได้แนบเนียนมาก
ใหญ่ กล่าวว่า “การศึกษาเรื่องเหรียญมีไม่สิ้นสุด เพราะทุกวันนี้มีของปลอมออกมาอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ ถึงขั้นเอาเหรียญแท้ไปถอดพิมพ์ก็มี แต่ถึงอย่างไรก็ยังทิ้งร่องรอยให้ได้พบเห็นความแตกต่างกัน โดยเฉพาะความคมชัดลึก ข้อสำคัญสุด คือ เราต้องไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่โลภ โอกาสพลาดจะมีน้อย ที่ผ่านมาผมยอมรับว่า เคยโดน ‘เหรียญเก๊’ มาแล้วเหมือนกัน เพราะความไม่รอบคอบของเราเอง ซึ่งจะเป็นบทเรียนที่ล้ำค่าแก่เรา ให้ระมัดระวังมากขึ้น อย่าได้ผิดพลาดอีก...การอยู่ในวงการนี้อย่างมีความสุข มีรายได้สม่ำเสมอ ก็คือ เราต้องมีเพื่อน มีอะไรก็แบ่งปันกัน บางครั้งการซื้อขายพระในหมู่เพื่อนกันก็จะบวกกำไรเพียงเล็กน้อย เพื่อวันหน้าเราจะได้แบ่งพระจากเขาในราคากันเองบ้าง...

สำหรับผม การซื้อพระจะไม่เน้นเฉพาะพระสวยอย่างเดียว แต่จะซื้อพระทุกสภาพ เพราะพระสวยจะมีราคาแพง โอกาสออกตัวจะช้ากว่าพระสภาพพอสวย ซึ่งมีราคาถูกกว่ากัน ซื้อมาขายไปได้กำไรเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว จะได้มีเงินทุนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเราก็ได้ศึกษาสภาพของพระต่างๆ ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผมโชคดีหลายครั้ง ที่ได้ซื้อพระแท้ในราคาพระเก๊ เพราะเจ้าของเดิมเขาอาจจะดูพระไม่เป็น คือ เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม รุ่นแรก ผมซื้อมา ๒ พันบาท ขายไปได้แสนกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหรียญที่ได้มาในราคาถูก แต่ขายออกไปเป็นเงินแสน ถือว่าสอบผ่านในเหรียญดังกล่าว เรื่องนี้นอกจากถือว่าโชคดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ประมาท คือ สายตาและความรอบคอบ...ทุกวันนี้ ผมภูมิใจในตัวเองมาก ที่ได้ผ่านความทุกข์ยากลำบากมาพอสมควร โดยเฉพาะผมมีโอกาสได้เลี้ยงดูคุณแม่ให้ท่านอยู่อย่างสบายๆ เสียที รวมทั้งยังได้ส่งให้น้องเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัย ผมสำนึกเสมอว่า มีวันนี้ได้ก็เพราะเฮียบอย ผู้แจ้งเกิดให้กับผม และมีพระคุณกับผมมาก ผมมีคติธรรมในการดำรงชีวิตว่า จะต้องมีความขยัน ซื่อสัตย์ และไม่ลืมบุญคุณครูบาอาจารย์”...นี่คือตัวตนที่แท้จริงของ ใหญ่ มรดกไทย คนหนุ่มสายเลือดใหม่ที่กำลังมาแรง ในวงการพระเครื่องทุกวันนี้...ผู้ประสบความสำเร็จในวัยเบญจเพสที่น่าชื่นชม


ข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/



  พระเครื่อง มณเฑียร   สงวนลิขสิทธิ์ เนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่ปี 2011 ชมรมพระเครื่อง มณเฑียร   พระเครื่อง มณเฑียร  
 
พระเครื่อง มณเฑียร เว็บไซด์ : พระมณเฑียร : WWW.PRAMONTIEN.COM   พระเครื่อง มณเฑียร