บทความ พระเครื่อง
 
  • พระเครื่อง พระสมเด็จ วัดระฆัง  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้  
  • พระเครื่อง พระ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิศวรวิหาร  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขต  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ศุข  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อเงิน  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อซัง  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม  
  • พระเครื่อง กรมหลวงวชิรญานวงค์ วัดบวรฯ  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร  
  • พระเครื่อง พระอธิการชู วัดนาคปรก  
  • พระเครื่อง หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อแฉ่ง วัดศรีรัตนาราม  
  • พระเครื่อง พระธรรมวโรดม วัดพระปฐมเจดีย์  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อกกล่อม วัดโพธาวาส  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อเกษม เขมโก  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อก๋ง วัดเขาสมอคอน  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม  
  • พระเครื่อง พระอุปัชฌากรัก วัดอัมพวัน  
  • พระเครื่อง พระครูนิสิตคุณากร (กัน)  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่เขียว วัดหรงบล  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ไข่ วัดบางเลน  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อซัง  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อซัง  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่แก้ว วัดช่องลม  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อเกิด วัดบางเดื่อ  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่กลีบ วัดตลิ่งชัน  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อคง วัดซำป่างาม  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อครน วัดบางแซะ  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อกึ๋น วัดดอน  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่กลีบ วัดตลิ่งชัน  
  • พระเครื่อง พระสังวรานุวงค์เถร(ชุ่ม) (พลับ)  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเชิด วัดลาดบัวขาว  
  • พระเครื่อง พระครูเนกขัมมาภิมณฑ์ วัดปากสะ  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ช่วง วัดบางแพรกใต้  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อขำ วัดปราสาทนิกร  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ขำ วัดแก้ว  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ขาว วัดหลักสี่  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ขาว วัดถ้อกองเพล  
  • พระเครื่อง พระกรมหลวงชินวร สิริวัฒน์  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่ชอบ วัดป่าสัมมนานุสรณ์  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม  
  • พระเครื่อง พระญานไตรโลก(ฉาย)  
  • พระเครื่อง พระ หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม  
  • พระเครื่อง พระอุปัชฌาเข็ม วัดม่วง  
  • พระเครื่อง พระสมุห์ขิง วัดกลาง  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่จัน วัดโมลี  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่จีน วัดท่าลาด  
  • พระเครื่อง พระพระอุบาลีคุณูปมาจารย  
  • พระเครื่อง พระหลวงพ่อเงิน วัดอินทรวิหาร  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่เจียม วัดกำแพง  
  • พระเครื่อง สมเด็จ ม.ร.ว.เจริญอิศรางกูร  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ  
  • พระเครื่อง พระหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู  
  • พระเครื่อง พระพุทธวิริยากร วัดสัตตนารท  
  • พระเครื่อง สมเด็จพระญานวรเถร  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเงินวัดท้ายตลาด  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อโขติ วัดตะโน  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง  
  • พระเครื่อง พระ หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย


  • แนะนําเว็ปไซด์






    ประวัติ พระเครื่อง
    หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ
     

    อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

    วัดบางมอญ ตั้งอยู่บนริมฝั่งคลองบางมอญทางด้านทิศตะวันออก ในเขตหมู่ที่ 4 ตำบลบางนา อำเภอมหาราช

    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดบางมอญหรือบางคนเรียกว่าวัดคลองมอญนี้ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่นอน

    พื้นที่ของวัดมีเกินกว่า 15 ไร่

    ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลบ้านหลวง กิ่งอำเภอดอนพุด จ.สระบุรี

    ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลกระทุ่ม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

    ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลพระนอน อ.นครหลวง

    ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลโรงช้าง

    ลำดับเจ้าอาวาสของวัด

    1. พระอุปัชฌาย์จั่น

    2. พระอุปัชฌาย์แหยม

    3. หลวงพ่อเชียว ธรรมโชติ

    4. หลวงพ่อเมือง

    5. หลวงพ่อพวง ธรรมปัญโญ



    วัดบางมอญ

    มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นวัดเก่าก็คือมีโบสถ์มหาอุตม์แบบชาวมอญเคยสร้างเช่นที่วัดเชิงท่า ลพบุรี

    พร้อมทั้งเจดีย์ก็มีส่วนคล้ายกันมาก และเหมือนกับพระเจดีย์วัดอัมพวัน ซึ่งหลวงพ่อกวักก็เคยสร้างไว้

    อันมีเชื้อสายเดียวกัน ปัจจุบันนี้โบสถ์ได้สร้างใหม่ (รื้อของเก่าออก) มีเสาหงส์ 2 เสา

    พร้อมทั้งตัวหงส์อยู่บนยอดเสาเป็นเนื้อโลหะผสม แต่ก็ได้มีขโมยลักไปเสียแล้วมองกุฏิพื้นไม้ต่างๆ

    ยังมีลวดลายฉลุให้ปรากฏเห็นว่าเป็นวัดเก่าวัดหนึ่ง ในตำบลบางนาแห่งนี้วัดบางมอญ

    จึงมีพวกมิจฉาชีพเจ้ามาลักขโมยของดี และมีค่ากันครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งชาวบ้านหวาดผวาไปตามๆ กัน

    วัดบางมอญ เพิ่งมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดบางสงบ เมื่อครั้งขุนบริหารชลานันท์ มาเป็นนายอำเภอมหาราชนี่เอง

    แต่ประชาชนทั่วๆไป ไม่ค่อยจะรู้จักคำว่าบางสงบมากนักคงเรียกว่าวัดบางมอญอยู่เช่นเดิม

    เหตุที่เรียกว่าวัดบางสงบหรือเปลี่ยนชื่อว่าบางสงบนั้น

    เพราะว่าคนแถบวัดบางมอญเองทำมาหากินกันอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่ค่อยมีนักเลงอันธพาล

    มีความร่มเย็นเป็นสุข เรียกว่าอยู่กันอย่างสันติสุข ในการประกอบอาชีพโดยทางสุจริต

    จะมีคนถิ่นอื่นเท่านั้นที่ไปก่อเรื่องก่อราวขึ้นชาวบางมอญทุกคนมีความสมานสามัคคีกันดี

    อาชีพหลักของเขาคือการทำนา

    ท่านผู้ใดจะประสงค์ไปเที่ยววัดบางมอญหรือวัดบางสงบนั้นไปไม่ยากเลย

    เพราะปัจจุบันนี้เส้นทางสัญจรไปมา(การคมนาคม) สะดวก ถ้าท่านมาจากกรุงเทพฯโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือไม่ก็ตาม

    เมื่อรถวิ่งมาตามถนนสายเอเชีย กระทั่งถึงทางแยกเข้าตัวเมืองอ่างทองท่านหยุดรถตรงสี่แยก

    แล้วมองไปทางขวามือทางด้านทิศตะวันออกจะมีถนนอีกสายหนึ่ง นั่นคือ ถนนสายอ่างทอง-ถนนสายท่าเรือ

    (สายยาวตัดเชื่อมกัน) จากนั้นท่านก็เลี้ยวรถวิ่งไปทางขวามือทางทิศตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร

    จะเห็นหมู่บ้านและมีป้ายบอกชื่อวัดบางมอญ อยู่ขวามือ เลยสะพานเลี้ยวขวามือ มองไปทางทิศใต้ไม่ไกลนัก

    ประมาณสัก 1 กม. ครึ่ง ท่านจะเห็นโบสถ์วัดบางมอญเด่นสง่างามไม่น้อยทีเดียว (โบสถ์หลังใหม่)

    ส่วนของเก่าได้ถูกรื้อเพราะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

    สภาพของวัดบางมอญครั้งอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันมาก คือ

    มีของเก่าแก่มากแสดงให้เห็นว่าเคยมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน

    และวัดบางมอญนี่เองที่มีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงระบือลั่นนามก้องไปทั่วสารทิศ

    เกียรติคุณและกิตติศัพท์ของพระคุณท่านนั้นย่อมเป็นที่โจษขานเล่าลือกันมาตลอดไม่เสื่อมคลาย

    และยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อกราน วัดโคกโพธิ์ จ.สระบุรี อีกด้วย

    ทั้งยังเป็นพระรุ่นพี่ของหลวงพ่อกลั่น (แก่กว่าหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ 10ปี) และแก่กว่าหลวงปู่ศุข

    วัดปากคลองมะขามเฒ่า 10ปี เช่น กัน

    หลวงพ่อจั่น หรืออุปัชฌาย์จั่น แห่งวัดบางมอญนี้นั้น ท่านเป็นเจ้าของเหรียญหล่อรูปเหมือนอันลือลั่น

    ได้สร้างนามและเกียรติคุณดังขจรขจายไปทั่วสารทิศ

    พุทธคุณของเหรียญนั่นเป็นเลิศด้านมหาอุตม์และคงกระพันชาตรี มีคนทั่วไปนิยมยิ่ง(หมายถึงของแท้นะ)

    แม้ขนาดเหรียญจะใหญ่ไปสักนิด พุทธคุณล้ำเลิศจริงๆ

    ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อจั่น ท่านเกิดที่ตำบลบางมอญ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ปีกุน พ.ศ.2380 โยมบิดาชื่อ ทบ โยมมารดาชื่อ ทรัพย์

    ชีวิตเมื่อครั้งเยาว์วัยได้ศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านอยู่กับวัด

    สมัยก่อนโรงเรียนหายากจึงเล่าเรียนกับพระตามวัด จนกระทั่งอ่านออกเขียนได้ ทั้งภาษาไทยและอักษรขอม

    ครั้นเมื่ออายุ 23 ปี (พ.ศ.2403) ได้ทำการอุปสมบท ณ. พัทธสีมาวัดบางมอญ โดยมี

    พระอธิการอินทร์ วัดตาลเอน เป็นพระอุปัชฌาย์

    พระมหาต่าย วัดระฆัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์จีน วัดบางมอญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เมื่อบวชได้รับฉายาว่า " จันทศร " และได้จำพรรษาอยู่วัดบางมอญตลอดมา จนกระทั่งปี พ.ศ.2435

    อายุได้ 55 ปี พรรษาที่ 32 ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

    หลวงพ่อจั่น เป็นพระเถระพระคณาจารย์รุ่นเก่า มีอายุสูง พรรษาก็มาก

    จนได้รับเกียรติยกย่องว่าเป็นพระที่กอปรด้วยคุณธรรม เมตตาธรรมอย่างสูงส่ง หลวงพ่อจั่น

    ได้รับการขนานว่าเป็นพระผู้คงแก่เรียน และได้รับการยกย่องว่าทรงวิทยาคุณในทางไสยาศาสตร์อย่างแท้จริง

    คนสมัยเก่าของชาวอำเภอมหาราช ที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นศิษย์ของหลวงพ่อจั่นอันมี กำนันบรรจง เฉลยวาเรศ

    กำนันตำบลบางนา อำเภอมหาราช อยุธยา และคุณคำรณ ขำคล้อย ซึ่งทั้งสองคนเล่าให้ฟังว่า

    แต่ก่อนมีนักเลงทุ่งมหาราช ซึ่งไม่ชอบยอมแพ้ใครง่ายๆถึงแม้แต่นักเลงถิ่นอื่นยังขยาดหวาดผวา

    ไม่กล้ามาราวีหรือต่อกรด้วย นักเลงสมัยก่อนมีเรื่องขัดใจกันมักจะนัดดวลกันแบบตัวต่อตัว

    หรือแบบตะลุมบอนกัน พอฝ่ายหนึ่งหัวร้างคั่งแตกย่อมเป็นฝ่ายแพ้

    อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชนะจะไม่ซ้ำเติมและไม่ปฏิบัติการทารุณต่อ

    แต่กลับช่วยเหลือทำให้เกิดความเข้าใจและนับถือในอาวุโสของผู้ชนะ

    หลวงพ่อจั่น ท่านเป็นพระแบบโบราณ ถือเคร่งในธรรมวินัย ยึดถือคำสอนของพุทธองค์ตลอดมา ท่านยึดสันโดษ

    ไม่โลภแต่กลับช่วยเหลือ อนุเคราะห์ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ดังนั้น

    ที่วัดของท่านจึงมีสัตว์หลายชนิดมาอาศัยท่านอยู่เป็นจำนวนมาก หลวงพ่อจั่น

    ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูก ถึงรุ่นหลานก็ยังมี ฉะนั้น จึงกล่าวได้โดยไม่ต้องสงสัยว่า

    ชาวทุ่งมหาราช ยุคก่อนต้องเป็นศิษย์ของท่าน กันแทบทั้งนั้น หลวงพ่อจั่น เป็นพระนักปฏิบัติ คือ

    ยึดสมถะและวิปัสสนาธุระ แม้ว่าท่านจะมรณภาพมาเป็นนานถึง 80 ปีมาแล้วก็ตาม

    แต่ตำรับตำราของหลวงพ่อท่านได้มอบให้เป็นสมบัติของวัดเป็นหลักฐานประการสำคัญว่า

    หลวงพ่อเป็นพระที่ศึกษาค้นคว้าวิทยาการความรู้ ตลอดจนเทิดทูนวิชาการทุกแขนงที่ได้ศึกษามา นอกจากนี้

    ยังเป็นการช่วยเหลืออนุชนรุ่นหลังได้มีตำราเก่าๆ ไว้ศึกษาหาความรู้ นับได้ว่าหลวงพ่อท่านมองเห็นการณ์ไกล

    จึงรักษาสมบัติอันมีค่าและควรจะต้องถือเป็นแบบฉบับต่อไปในอนาคต

    หลวงพ่อจั่นท่านเป็นพระที่มีอัชฌาศัยสมถะ มักน้อย เป็นผู้มีเมตตาธรรมและจำใจ

    มีศีลาจาราวัตรเคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย ท่านได้ปฏิบัติสมณธรรมอันควรแก่สมณะเป็นอย่างยิ่ง

    จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ของบรรพชิตและฆราวาสทั่วๆไป

    พยายามอบรมบ่มนิสัยให้พระเณรทุกรูปทุกนามปฏิบัติตนให้อยู่ธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

    โดยยึดเอาหลักและคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งสั่งสอนประชาชนในแถบถิ่นใกล้

    ไกลวัด ว่าให้ทุกคนประพฤติดีมีศีลธรรมประจำใจ จะทำสิ่งใดอย่ามัวรีรอ

    หลวงพ่อเป็นพระที่มีจิตใจมั่นคงเป็นการที่จะทะนุบำรุงพระศาสนาด้วยความมุ่งมั่นเป็นเอก

    การเอาใจใส่ดูแลวัดวาอารามของท่านด้วยความมุมานะนี่เอง

    จึงทำให้วัดบางมอญในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่เจริญรุ่งเรืองมากวัดหนึ่ง ในแถบถิ่นตำบลบางนา

    เป็นวัดที่ใหญ่โต ทั้งกุฏิ ศาลาการเปรียญโรงเรียน

    หลวงพ่อจั่น เป็นพระเถราจารย์สมัยเก่า สูงด้วยอายุ มากด้วยพรรษา

    และได้รับเกียรติยกย่องว่าเป็นพระที่มีคุณธรรมและเมตตาธรรมอันสูงส่ง

    เหรียญของท่านถึงแม้จะสร้างมานานประมาณร่วม 90 ปีแล้วก็ตาม ยังมีผู้นิยมเลื่อมใสศรัทธากันอยู่มาก

    และเป็นเหรียญหนึ่งที่ชาวอยุธยาทั้งมวลภูมิใจอย่างยิ่งว่าเป็นเหรียญขลังที่มีอันดับเหรียญหนึ่งเดียว

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหรียญหลวงพ่อมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ความนิยมลดลงไปบ้าง

    แต่ถ้าพูดถึงกิตติคุณในวัตถุมงคลของท่านแล้ว ประชาชนคนทั่วไปยังศรัทธาเลื่อมใสกันอยู่ไม่น้อย

    ถึงแม้ว่าว่าเหรียญของท่านจะไม่เด่น ขาดความงามไปบ้าง แต่ก็ปรากฏว่ามีของปลอมออกระบาดไปทั่ว

    แสดงถึงว่าเหรียญของท่านต้องดีจริง จึงมีผู้ทุจริตปลอมแปลง (ถ้าไม่ดีคงไม่มีคนปลอม)

    อนึ่งเหรียญของหลวงพ่อที่แท้จริงนั้นดูง่าย เพราะหล่อในสภาพที่เรียบร้อย

    จึงแตกต่างกับของปลอมอย่างเห็นได้ชัด

    หลวงพ่อจั่น เป็นพระเถระที่มีศีลาจาวัตรครบถ้วน หาหรปฏิบัติธรรมวินัยระเบียบแบบแผนท่านก็เคร่งครัด

    เมื่อผู้ใดพบเห็นก็ชวนให้เคารพนับถือกราบไหว้ มาพบท่านครั้งหนึ่งก็พยายามมาหาท่านอีกเป็นครั้งที่ 2และ3

    หลวงพ่อได้บำเพ็ญศาสนกิจด้วยคุณงามความดีมาตลอดชีวิตของท่าน

    กระทั่งถึงวันอาทิตย์แรม 3 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ เวลาบ่าย 4 โมง ซึ่งตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์

    พ.ศ. 2470 ท่านได้ถึงกาลมรณภาพ สิริอายุ 90 ปี 67 พรรษา

    นับได้ว่าชาวอำเภอมหาราชได้สูญเสียพระเถระพระอาจารย์ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรไปอย่างน่าเสียดาย

    อนึ่งในงานพิธี ฌาปนกิจศพหลวงพ่อจั่นนั้น

    ปรากฏว่าบรรดาศิษย์และท่านที่เคารพเลื่อมใสต่างมาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง แม้วัดบางมอญจะกว้าง

    แต่ก็ต้องแออัดไปด้วยผู้คนเพราะใครๆ ก็เคารพเลื่อมใสและศรัทธา จึงได้มาร่วมพิธีกับอย่างคับคั่ง

    หลวงพ่อจั่น ท่านได้รับการยกย่องพิเศษสุด 3 ประการด้วยกัน คือ

    - ท่านเคร่งในการปฏิบัติธรรม

    - อมรมสั่งสอนกุลบุตร-ธิดา ให้มีความรู้

    - ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือประชาชน

    จนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าหลวงพ่อผู้ทรงคุณธรรมและกอปรด้วยเมตตาบารมี สมกับเป็นปูชนียบุคคลที่ควรสักการะเคารพยกย่องอย่างแท้จริง



    ข้อมูลจากเว็ป   http://board.212cafe.com